ชายเมายาคลุ้มคลั่งเผาบ้านและใช้ปืนยิงปลายิงขาพ่อตนเอง ซอยสุขสวัสดิ์ 18
วันที่ 11 ตุลาคม 2564
เวลา 22.00 น.
พันตำรวจตรี ทนงศักดิ์ ปลั่งกลาง สว.(สอบสวน) สน.ราษฎร์บูรณะ ได้รับแจ้งมีเหตุชายเมาสุราคลุ้มคลั่งเผาบ้านตนเอง จึงรีบประสานรถดับเพลิง อาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัย และ อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มาสนับสนุนที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ เป็นลักษณะโรงงานมีประตูปิดมิดชิด เป็นโรงหล่อเพาะเหล็ก เลขที่ 145 ม.7 ซอย สุขสวัสดิ์18 ถนน สุขสวัสดิ์ แขวง บางประกอก เขต ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร มีไฟรุกไหม้ที่บริเวณชั้น 2 ผู้แจ้งเป็นพ่อของชายคลุ้มคลั่ง พยายามจะไปเปิดประตู แต่กลับโดนลูกชายตนเองยิงด้วยปืนยิงปลาเข้าที่ขาได้รับบาดเจ็บจึงให้กู้ภัยรีบนำส่งโรงพยาบาลราษฎร์บูรณะ หลังจากเปิดประตูเข้าไปได้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง และ อาสาสมัครบรรเทาสาธารณะภัยช่วยกันใช้น้ำฉีดดับไฟ ใช้เวลาไม่นาน เพลิงก็สงบลง เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบดูที่ชั้น 2 พบว่า บริเวณที่ไหม้ เสียหายเป็นที่นอน เสื้อผ้า แอร์ ส่วนผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไปทางด้านหลังตอนที่กำลังชุลมุนดับไฟกันอยู่
เมื่อสอบถามจาก ดาบตำรวจ ประจวบ ยอดโปร่ง เป็นเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ ไปถึงที่เกิดเหตุเป็นคนแรก บอกเล่าว่า ตนได้รับแจ้งเหตุมีชายเมาอาละวาด พ่อเค้าเป็นคนแจ้ง จึงรีบมาตรวจสอบ พอมาถึง พ่อเค้าไม่อยู่แล้ว ออกมาข้างนอก ประตูบ้านปิดอยู่ เข้าไม่ได้ ตนก็พยายามหาทางเข้าไป ชายคนนั้นก็เกิดอาการคลุ้มคลั่ง ไม่ให้ตนเข้า มีอาวุธเป็นปืนยิงปลาถือในมือ ตนจึงถอยออกมา เพื่ิอรอกำลังพลมาเพิ่ม ก็มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาช่วย พ่อเค้ากลับเข้ามาพอดี จึงเข้าไปไขกุญแจเปิดประตูออกมา แต่พ่อก็โดนปืนยิงปลายิงเข้าที่ขาได้รับบาดเจ็บ ให้อาสาพาส่งโรงพยาบาล แล้วไฟก็กำลังรุกไหม้ ตนจึงยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ พอไฟดับแล้ว เข้าไปตรวจสอบ ผู้ก่อเหตุก็ไม่พบแล้ว มันมืดด้วย ไม่ทราบทิศทางว่าหลบหนีไปทางไหน แต่ไม่ได้ออกมาทางหน้าประตูแน่
ทางผู้เห็นเหตุการณ์ ชื่อนาย วุฒิ โชนเชง อายุ 33 ปี บอกว่า ตนพักอยู่โรงงานข้างๆ ตนจะชอบแอบดูว่า มันทำอะไร เพราะมันชอบทำเสียงดังเป็นประจำ วันนี้ตอนเกิดเหตุ ตนได้ยินเสียงปาขวดใส่กำแพงเสียงดัง ตนจึงแอบดู เห็นมันหอบเสื้อผ้าขึ้นไปที่ห้องชั้น 2 แล้วจุดไฟแช๊คเผา ไฟก็พรึบขึ้น ตนก็ตกใจรีบไปบอกคนงานคนอื่นๆ ให้รีบออกมาช่วยกันดับ แต่ก็เข้ากันไปไม่ได้ ประตูมันปิด
ทางด้านแม่ของผู้ก่อเหตุชื่อ น.ส.ณัชชา แสงทองดี อายุ 54 ปี บอกว่า ตนพักอาศัยอยู่ในโรงงานแห่งนี้ อยู่กัน 3 คนพ่อแม่ลูก ซึ่งผู้ก่อเหตุเป็นลูกชายของตน ไม่ได้ทำงาน ติดยา ชอบเมาอาละวาดเป็นประจำ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าไปเอาเงินที่ไหนมาซื้อยา บางวันก็มีเงินเป็นพัน บางวันไม่มีขอตนก็ให้แค่ 100-200 บ้าง เพราะตนก็ทำงานไม่ได้มีเงินเยอะอะไร แต่มันติดยาหนัก บางครั้งถึงกลับทำร้ายตนและพ่อเค้า วันนี้ตอนเกิดเหตุ เกิดอาการเมาสุราอาละวาดขว้างปาข้าวของ ตนกับพ่อเค้าก็หนีออกมาข้างนอก เพื่อเอาตัวรอด กลัวโดนทำร้ายเหมือนทุกครั้ง แล้วโทรแจ้งตำรวจเพราะครั้งนี้จุดไฟเผาบ้านด้วย เคยแจ้งตำรวจให้จับไป ก็ปล่อยออกมาอีก ก็มาอาละอาดอีก เป็นแบบนี้ประจำ แต่คราวนี้หนักกว่าทุกครั้ง ก็ไม่รู้จะทำไง
ทางพ่อของผู้ก่อเหตุชื่อนาย สูรย์ แสงทองดี อายุ 65 ปี บอกว่า ที่ตนได้รับบาดเจ็บก็ตอนที่ปีนเข้าไปเพื่อจะเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่เข้ามาดับไฟ ก็โดนลูกชายตนใช้ปืนยิงปลา ยิงเข้าที่ต้นขาข้างซ้าย
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ดับเพลิงช่วยกันดับไฟโดยใช้เวลาไม่นาน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบและใช้เทปกั้นกันบุคคลภายนอกเข้าพื้นที่ และถ่ายภาพที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามข้อมูลเบื้องต้นจากคนเห็นเหตุการณ์ และได้เชิญแม่ผู้ก่อเหตุไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ สน.ราษฎร์บูรณะ ส่วนผู้บาดเจ็บที่เป็นพ่อก็เข้ารักษาอาการบาดเจ็บจากโดนปืนยิงปลาที่บริเวณต้นขาข้างซ้ายที่โรงพยาบาลราษฎร์บูรณะ และอาการดีแล้วจะให้ข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนผู้ก่อเหตุชื่อนาย เอกชัย แสงทองดี อายุ 31 ปี ตอนเกิดเหตุสวมใส่เสื้อยืดสีกรมท่า กางเกงบ๊อคเซอร์ ยังคงหลบหนี เจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.