ข่าวทั่วไปข่าวพาดหัวความเชื่อ

ลูกแมวเพศเมีย มีตาเดียว เจ้าของเชื่อเกิดมาเพื่อให้โชค ยืนยันจะเก็บรักษาร่างเอาไว้บูชาตั้งชื่อ”แก้วตา”

ลูกแมวเพศเมีย มีตาเดียว เจ้าของเชื่อเกิดมาเพื่อให้โชค ยืนยันจะเก็บรักษาร่างเอาไว้บูชาตั้งชื่อ”แก้วตา”

วันที่ 13 ตุลาคม 2564 เวลา 14.45 น.

ณ.ที่ร้านกุ้งเผานมโต ย่านซอย หนองใหญ่ วันนี้เมื่อเช้ามีแมวคลอดลูก ออกมา 4 ตัว แต่การคลอดลูกของแมวครั้งนี้กลับกลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งของบรรดาคอหวย นักเสี่ยงโชค คือในบรรดาลูกแมวทั้ง 4 ตัวของแม่แมวตัวนี้ กลับมีแมวเพศเมีย 1 ตัวลายสลิดสีเทา กลับมีดวงตาเพียงดวงเดียว ซึ่งอยู่ตรงกลาง ไม่มีจมูก มีเพียงดวงตาแล้วก็ปาก อยู่ในใบหน้าเท่านั้น แล้วยังมีหน้าตาละม้ายคล้ายลิง มีขนเต็มตัวและลวดลายเด่นชัด แล้วพอคลอดออกมาก็เสียชีวิตทันที ในสภาพร่างกายสมบูรณ์ มีอวัยวะครบถ้วน แต่ยกเว้นดวงตาที่มีเพียงดวงเดียวเท่านั้น จึงเป็นที่หน้าสนใจกับบรรดาเซียนหวยทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ ถึงกับมีการเสนอราคารับซื้อ แต่เจ้าของไม่คิดจะขาย มั่นใจแมวตัวนี้เกิดมาเพื่อให้โชค จึงตั้งชื่อทันทีว่า ” แก้วตา ” แล้วจัดเตรียมเครื่องหอมใส่พานนำขึ้นบูชา เพื่อเป็นศิริมงคล เผยว่าตนซื้อเลขเด็ดเอาไว้แล้ว 2 ใบ งวดนี้อาจจะมีลุ้น

เมื่อผู้เสื่อข่าวติดตามลงพื้นที่ตรวจสอบความแปลกประหลาดของเหตุการณ์ครั้งนี้จึงพบกับสถานที่ดังกล่าวเป็นร้านขายกุ้งเผา ชื่อร้านกุ้งเผานมโต ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 1362 ซอย กาญจนาภิเษก ซอย 8 ถนน กาญจนาภิเษก แขวง บางแค เขต บางแค กรุงเทพมหานคร เป็นลักษณะอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ปลูกติดกันหลายคูหา ด้านหน้าบ้านหลังดังกล่าวมีตู้ปลาขนาดใหญ่ 2 ตู้ ไว้สำหรับเลี้ยงกุ้งเป็นๆ ทั้ง 2 ตู้ยังมีกุ้งเป็นๆแหวกว่ายอยู่ด้านในเป็นจำนวนมากเพื่อให้ลูกค้ามาเลือกซื้อจะได้สดๆ แล้วปิ้งย่างให้กับลูกค้าได้นำกลับไปทานเป็นอาหารที่บ้านได้เลยพร้อมน้ำจิ้มซีฟู๊ดรสเด็ด ที่รสชาติไม่เหมือนที่ไหนมาก่อนเพราะเป็นสูตรเฉพาะของทางร้านโดยตรง เมื่อซื้อไปทานแล้วจะต้องติดใจรสชาติของความอร่อย และกุ้งที่ได้ซื้อไปก็ยังสดใหม่อยู่เสมอ ทราบชื่อเจ้าของร้านต่อมาชื่อ นางสาว วาสนา แซ่โง้ว อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของแมวตัวดังกล่าวแล้วได้นำร่างของแมว ตาเดียว ชื่อแก้วตา มาให้กับผู้สื่อข่าวได้ทำการบันทึกภาพ และได้สอบถามรายละเอียดของที่มาที่ไปของเจ้าแมวแก้วตาตัวนี้ พร้อมทั้งได้ชูฉลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 2 ใบ ที่ตนได้ซื้อมาหลังจากที่ทราบว่าแมวที่เลี้ยงไว้ได้คลอดลูกออกมา แล้วมีตัวนึงที่เสียชีวิตและยังมีรูปร่างที่ประหลาดเหนือธรรมชาติอีกด้วย ตนจึงลงมาตรงบริเวณหน้าบ้านแล้วจังหวะนั้นได้มีรถขายฉลากกินแบ่งรัฐบาล ขี่ผ่านหน้าบ้านของตนเองโดยทันที จะด้วยความบังเอิญหรือโชคหนุนนำก็ไม่ทราบได้ อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญานของตัวท่านเองก็แล้วกัน แต่ตนก็เชื่อว่าแมวตัวนี้ได้เกิดมาเพื่อให้โชคกับตัวเธอเองแน่ๆ จึงจะนำร่างของลูกแมวตัวดังกล่าวไปทำความสะอาดแล้วจะนำเครื่องหอมต่างๆมาชำระล้างร่างกายแล้วนำขึ้นหิ้งเพื่อเก็บไว้บูชาตามความเชื่อของตนต่อไป หลังจากที่เธอได้นำภาพลูกแมวตัวดังกล่าวไปให้กับเพื่อนบ้านบริเวณแถวนั้นได้ดู แล้วตัวเธอเองได้ถ่ายรูปและโพสลงบนเฟสบุคส่วนตัวก็มีคนเห็น แล้วมีการขอซื้อต่อกับตนเองแล้ว แต่ตนไม่ขายอย่างแน่นอน

จากการสอบถาม น.ส.วาสนา แซ่โง้ว อายุ 36 ปี เจ้าของแมว บอกว่า แมวตนท้องนี้เป็นทัองที่ 3 แมว ก็ไม่เคยเจอแบบนี้เลย ตอนแรกตนก็ไม่รู้ว่าคลอดแล้ว แต่เมื่อคืนแม่แมว เริ่มหาที่คลอด พอเช้ามาประมาณ 6 โมงเช้า ได้ยินเสียงลูกแมวร้อง ตนจึงเดินหากันว่าคลอดที่ไหน พอเจอตนก็หยิบมาดูตามปกติ เห็นตัวนี้ว่าทำไม หน้าตาเป็นแบบนี้ตนก็มาเพ่งมอง ว่าเหมือนลิงเลย ปรากฎว่า มีตาเดียวอีก แต่ตอนนั้น ลูกแมวไม่หายใจแล้ว แต่ตัวยังนิ่ม ยังเปียกๆ เหมือนเพิ่งคลอดออกมา ตนก็เช็ดทำความสะอาด แล้วก็ใส่พานไว้ เพื่อนๆข้างๆบ้านก็มาดูต่างก็บอกว่า มาให้โชคให้ลาภหรือป่าว บอกคนก็ว่า โชคดี บางคนก็มาขอซื้อ ส่วนตนนั้นก็เชื่อว่ามาให้โชคให้ลาภ ตนจึงคิดว่าจะเก็บไว้บูชา เพราะตนก็ทำอาชีพค้าขาย น่าจะช่วยเรื่องการค้าขายของตนได้ ส่วนทางน้องอิง อายุ 17 ปี เป็นลูกสาวก็บอกว่า ตนเลี้ยงแมวมา เห็นแมวมาตั้งแต่เด็กๆ ก็ไม่เคยเห็นแบบนี้เลย คลอดเมื่อเช้านี้ก็หากันตั้งแต่ 6-7 โมง พอเห็นแบบนี้ก็ตกใจ ถามแม่ว่า เคยเห็นแบบนี้มั้ย แม่ก็บอกว่า ไม่เคยเห็นเหมือนกัน

จากการสังเกตุร่างกายของลูกแมวตัวดังกล่าวแล้วมีลักษณะคล้ายลูกแมวธรรมดา เพศเมีย มีขนยาวลายสลิด สีเทา ความยาวลำตัว 13 ซม. น้ำหนัก 80 กรัม ร่างกายสมบูรณ์ครบทุกอย่าง ยกเว้นดวงตามีดวงเดียว แล้วอยู่ตรงกลางใบหน้า บริเวณปากจะไม่ยื่นออกมาเหมือนลูกแมวโดยทั่วไป จะแบนราบเข้ากับใบหน้า มีลักษณะหน้าตาที่คล้ายกับลิง ส่วนแม่แมวเป็นสีขาว ร่างกายอ้วนท้วนสมบูรณ์แข็งแรงดี และลูกที่เหลืออีก 3 ตัว มีสีขาว 1 ตัว สีดำ 1 ตัว และสีส้ม 1 ตัว ก็จะมีลักษณะปกติเหมือนแมวทั่วไป

โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.