ข่าวพาดหัวทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกาย

ต้นมะม่วงเป็นเหตุ เมียคว้าปังตอ ฟันหัวผัวหวิดดับ ย่านประชาอุทิศ

ต้นมะม่วงเป็นเหตุ เมียคว้าปังตอ ฟันหัวผัวหวิดดับ ย่านประชาอุทิศ

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2564 เวลา 14.30 น.

เหตุสุดระทึกเมื่อชาวบ้านภายในซอยประชาอุทิศ ต้องแตกตื่นกันเพราะมีชายวัย 40 ปี ถูกเมียตัวเองใช้มีดปังตอฟันเข้าที่หัวจนเลือดอาบทั่วร่างกายแล้วกระหน่ำทุบตีด้วย สากกระเบือตำพริก จนชาวบ้านในละแวกนั้นทั้งลูกเด็กเล็กแดงต่างก็วิ่งหนีกระเจิงด้วยความตกอกตกใจ และหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงต่างก็รีบคว้าโทรศัพท์โทรแจ้งเหตุทันที

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการโดนทำร้าย ภายในซอยประชาอุทิศ จึงรีบรุดจัดกำลัง พร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมาชื่อนาย โป้ง อายุ 40 ปี มีอาชีพรับจ้าง ในสภาพนั่งพิงกำแพงรั้วบ้านหลังหนึ่งกลางซอยดังกล่าวแล้วสังเกตุเห็นว่าตามเนื้อตัวผู้ได้รับบาดเจ็บนั้นเต็มไปด้วยเลือดทั้งตัว อยู่ในสภาพนั่งหายใจรวยรินอยู่บริเวณดังกล่าว ตรวจสอบแล้วพบบาดแผลขนาดใหญ่จากการโดนมีดปังตอฟันเข้าบริเวณศรีษะ และที่ลำคอมีบาดแผลจากการถูกกรรไกรตัดขี้ด้ายแทงเป็นรูแผลลึก และตามเนื้อตัวมีฟกช้ำจากการโดนทุบตีด้วยสากกระเบือตำพริก อาสาสมัครจึงรีบรุดจัดอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเร่งให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน แล้วนำส่งโรงพยาบาลสุขสวัสดิ์ตามสิทธิ์การรักษาทันที และตรงบริเวณที่ผู้ได้รับบาดเจ็บนั่งอยู่ยังพบกับมีดปังตอขนาดใหญ่ และสากกระเบือตำพริก วางอยู่บริเวณดังกล่าวด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบจากที่เกิดเหตุแล้วพบว่าจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณบ้านพักอาศัยหลังหนึ่งภายในซอย ประชาอุทิศ ถนน ประชาอุทิศ แขวง ราษฎร์บูรณะ เขต ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร เป็นลักษณะบ้านไม้สองชั้น แบ่งเป็นห้องให้เช่า เหตุเกิดบริเวณหน้าห้องที่ 4 จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่แล้วพบผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นภรรยาของผู้ได้รับบาดเจ็บเอง ทราบชื่อต่อมาชื่อ นาง พิน อายุ 41 ปี กำลังนั่งปลูกต้นมะม่วงอย่างใจเย็นอยู่บริเวณหน้าห้องดังกล่าว และอยู่ในสภาพเนื้อตัวและเสื้อผ้าเปื้อนไปด้วยเลือดของสามีของเธอเอง และบริเวณดังกล่าวยังพบกับหยดเลือดเป็นทางยาวตลอดทางอีกด้วย ทราบจากชาวบ้านในละแวกแถวนั้นว่าผัวเมียคู่นี้มักจะมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่บ่อยครั้งแต่ครั้งนี้หนักสุดจนถึงขั้นเลือดตกยางออกกันเลยทีเดียว แล้วจากการสอบถามถึงสาเหตุของเรื่องราวทั้งหมด นางพิน ก็ยังรับสารภาพว่าได้ทำร้ายสามีของเธอเองจริงๆ เพราะให้ช่วยดามต้นมะม่วงต้นเล็กที่เธอนำมาปลูกแต่คราวนี้ต้นมะม่วงดังกล่าวได้หักออกจากกัน ส่วนเธอเองก็พยายามแล้วที่จะดามต้นมะม่วงให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมแต่ไม่สำเร็จจึงให้สามีช่วย แต่สามีดันเอายอดปักลงดิน ตนก็เลยเกิดการโมโหแล้วก็คว้ามีด คว้าสากกระเบือออกมาทำร้าย แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นอะไรมากถึงต้องไปโรงพยาบาล

จากการสอบถาม คนเจ็บชื่อนาย โป้ง อายุ 40 ปี ทำงานรับจ้างทั่วไป บอกว่า สาเหตุที่โดนเมียทำร้ายเพราะว่าตนกินเหล้า เมียบอกแล้วไม่ฟัง ตอนเกิดเรื่อง คือ ให้ตนดามกิ่งไม้ แต่ตนทำไม่เป็น เลยโดนตีโดนมีดฟัน แต่ตนก็ไม่โกรธเมียนะ ตนรักเมียมาก ตนทำผิดเอง แต่เมียตนไม่ได้ทำร้ายตนบ่อย เมียตนไม่อยากให้ตนกินเหล้า แต่ตนไม่ฟัง

ส่วนทาง นาง พิน อาย 41 ปี เป็นเมียของผู้บาดเจ็บและเป็นคนทำร้าย บอกว่า ตนบอกให้เค้าปลูกต้นไม้ ต้นไม้มันหัก ให้ช่วยดามกิ่งให้ แต่แฟนตนเอากิ่งที่หัก มาปักลงดิน มันใช่หรอ ตนไม่ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนทำร้าย เค้าเดินมาหามีดเอง

้ส่วนทางด้านเพื่อนข้างห้องชื่อ นาย ศุภโชค อายุ 30 ปี บอกว่า ผู้หญิงบอกให้แฟนเค้าช่วยปลูกต้นไม้ แต่แฟนเค้าปลูกไม่เป็น ผู้หญิงเลยโมโหเอามีด เอาสากกระเบือ ตีทำร้าย มีแผลที่หัวเยอะอยู่นะ อาสามาช่วยทำแผลให้แล้ว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บมีดปังตอ และ สากกระเบือตำพริกไว้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี แล้วนำตัว นาง พิน ไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สน. เพื่อลงบันทึกประจำวันเอาไว้ก่อน ส่วนเรื่องทางคดีความนั้นยังคงไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใดๆกับ นาง พิน ต้องรอให้สามีอาการดีขึ้นก่อนถึงจะเรียกทั้งคู่มาปรับความเข้าใจกันที่ สน. ส่วนถ้าทางสามี ซึ่งเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บจะแจ้งความเพิ่มเติมก็สามารถที่จะแจ้งได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย บางครั้งเรื่องครอบครัวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ถ้าเป็นไปได้มีอะไรก็ให้ค่อยๆพูดจากันดีๆอย่าใช้ความรุนแรงเข้าหากันและกัน แต่ถ้าเป็นเรื่องที่มันไม่สามารถที่จะตกลงกันเองได้ ก็ขอให้ไปตกลงกันที่สถานีตำรวจ จะดีกว่า อย่าใช้อารมณ์ในการตัดสินปัญหาครอบครัว เคราะห์ดีที่เหตุการณ์ในวันนี้ไม่ถึงกับต้องเสียชีวิต แต่ก็คงต้องพักรักษาตัวอีกนานกว่าบาดแผลจะหายดี

โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.