บุรีรัมย์ ยิ่งกว่าเสี่ยชัช ลุงสายเปย์ให้สาว 10 ล้านไม่เคยแม้แตะปลายนิ้วฟังประวัติหนาว
ลุงโสดวัย 63 ปี ชาว อ.ประโคนชัย บุรีรัมย์ หวังมีครอบครัวกับสาววัย 27 ปี ชาวสุโขทัย หลังฝ่ายหญิงประกาศหาคู่ทางเฟชบุ๊ก โดนสาวสับขาหลอกต้มจนเปื่อยสูญไปกว่า 10 ล้าน เจ้าตัวเผยโอนเงินครั้งละแสน ถูกสาวเอาโทรศัพท์โอนเองอีก หลอกขายที่ดินอีก ช้ำสุดโดนสาวหลอกไปผูกแขนที่หมอชิต ก่อนโร่แจ้งตำรวจ ยอมรับยังเห็นใจ หอบพัดลม ผ้าห่มมาเยี่ยมถึงห้องขัง เผยรักจริงไม่เคยแตะ
วันที่ 7 พ.ย.64 ที่ผ่านมา พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ แถลงการจับกุม น.ส.ชนกนันท์ หรือนัดดา ตุ้มเขียว อายุ 27 ปี อยู่ที่ 203 ม.16 ต.โตนด อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย หลัง พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.กองปราบปราม นำกำลังเข้าจับกุมตามหมายจับ ฐานฉ้อโกง และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จฯ ได้บริเวณหน้าโรงแรมในเมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้มีนายนรศักดิ์ หรือเจ๊ก ศรีพิรุณทิพย์ อายุ 63 ปี อยู่ที่ 103 ม.14 ต.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ กล่าวหา น.ส.ชนกนันท์ ว่าได้หลอกลวงและฉ้อโกงเงินไปกว่า 10 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่ สภ.ประโคนชัย หลังจากตำรวจนำตัว น.ส.ชนกนันท์ มาควบคุมไว้ที่ สภ.ประโคนชัย เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ยังไม่มีญาติจากสุโขทัย มาเยี่ยมแต่อย่างใด มีเพียงลูกสาว น.ส.ชนกนันท์ วัย 7 ขวบ ที่มากับแม่และนั่งอยู่นอกห้องควบคุม
ต่อมาได้มีนายนรศักดิ์ คนแจ้งความจับ นำผ้าห่ม และซื้อพัดลมใหม่ หวังจะเอามาให้ น.ส.ชนกนันท์ แฟนสาวของตัวเองที่ถูกคุมขังเป่าคลายร้อน แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาต ให้เอาเข้าไปให้
นายนรศักดิ์ เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดว่า ตนกับ น.ส.นัดดา รู้จักกันทางเฟชบุ๊ก ชื่อ”หญิง วรน”เมื่อต้นเดือนมิถุนายน 64 ที่ผ่านมา โดยในเฟชบุ๊กเป็นลักษณะประกาศหาคู่ เมื่อเห็นรูปรู้สึกสนใจในรูปร่างหน้าตา จึงทักเข้าไป โดยฝ่ายหญิงเป็นคนคุยเก่ง
ประมาณ 1 สัปดาห์ หลังจากรู้จักกัน ฝ่ายหญิงขอยืมเงิน อ้างว่าแม่ป่วย จึงโอนเข้าไปให้ 10,000 บาท จากนั้นได้ยืมครั้งละ 10,000 บาทเรื่อยมา ในห้วง 1 เดือนได้โอนเงินเข้าไปให้กว่า 200,000 บาท
กระทั่งฝ่ายหญิงมาคุยว่าจะยอมแต่งงานด้วย และได้นัดหมายจะสู่ขอกันที่ จ.ชัยนาท เพราะมีบ้านญาติอยู่ที่นั่น แต่มีปัญหา เพราะถูกกักตัวโควิดที่กรุงเทพฯ จึงขอนัดหมายกันที่สถานีขนส่งหมอชิต
ตนจึงนั่งรถทัวร์จากบุรีรัมย์ไปคนเดียว เมื่อไปถึงที่สถานีหมอชิต พบ น.ส.นัดดา มาพร้อมกับหญิงสาวอีกคน บอกว่าเป็นป้า พอเจอหน้าครั้งแรก รู้เลยว่า”ไม่ตรงปก”เพราะหน้าในโปรไฟล์ กับตัวจริงไม่เหมือนกัน แต่รับได้
จากนั้นจึงทำพิธีผูกข้อไม้ข้อมือกันที่สถานีขนส่งหมอชิต ตนจึงมอบทองให้ไป 2 บาท จากนั้นน้องนัดดา ได้เดินทางมาด้วยที่ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ มาอยู่ที่บ้านประมาณ 4 วัน แล้วกลับบ้านที่ สุโขทัย หลังจากนั้นได้คุยกันทางเฟชบุ๊กมาอย่างต่อเนื่อง
ต่อมาเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ได้ตรวจสอบบัญชี พบว่าระหว่างวันที่ 19-30 มิถุนายน มีการโอนเงินออกไปหลายครั้ง รวมเป็นเงิน 2,600,000 บาท และมารู้ว่าฝ่ายหญิงเอาโทรศัพท์โอนเข้าบัญชีของตัวเองและของญาติ จึงเข้าไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ประโคนชัย
นายนรศักดิ์ เล่าด้วยว่า จากนั้นฝ่ายหญิง ได้โทรมาบอกว่า”เราจะเป็นครอบครัวกันแล้วทำไมถึงแจ้งความ”พร้อมกับบอกว่าที่ดินของพี่ที่มีอยู่ 9 ไร่ ซึ่งตนจะขายได้ถึง 16 ล้านบาท แล้วเรามาสร้างครอบครัวด้วยกัน
ตนซึ่งรักเขาอยู่แล้ว จึงมอบอำนาจให้”ที่รัก”ไปขายเอง สุดท้ายมารู้ว่าที่ดินขายได้เพียง 7,500,000 บาท แล้วเอาเงินเข้าบัญชีตัวเอง พอทราบเรื่องคิดอย่างเดียวว่าจะเอาเรื่องจนถึงที่สุด
แต่เมื่อมาเห็นน้องนัดดา ถูกคุมขัง รู้สึกสงสารและเห็นใจ จึงไปเอาผ้าห่มกับพัดลมมาให้ ยอมรับว่าเป็นห่วง เพราะตนไม่เคยมีครอบครัว ถ้ารักใครรักจริง สำหรับน้องนัดดา ตั้งแต่รู้จักกันมาประมาณ 5 เดือน ยังไม่เคยแตะต้องตัวแม้ปลายเล็บ///////////////
*****เบลอคาดตา ลุงกับผู้หญิงด้วยนะครับ*****
วาทิตย์ แสนธุปี/0957874787
คิวภาพ//ภาพกองปราบเข้าจับกุม//ตำรวจแถลง/หน้าเฟชฯสาว/ลุงเอาผ้าห่มกับพัดลมมาให้ที่โรงพัก//เสียงลุง