ข่าวพาดหัวพระสงฆ์พุทธศาสนา

เชียงราย – ปล่อยโคมยักษ์สูงเท่าตึก 4 ชั้น ในพิธีปล่อยโคมบูชาพระธาตุจอมกิตติ นักท่องเที่ยวแห่ชมคึกคัก

เชียงราย – ปล่อยโคมยักษ์สูงเท่าตึก 4 ชั้น ในพิธีปล่อยโคมบูชาพระธาตุจอมกิตติ นักท่องเที่ยวแหชมคึกคัก

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 19 พ.ย. 2564 ที่ลานหน้าวัดพระธาตุจอมกิตติ ม.6 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย พระครูวิกรมสมาธิคุณ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุจอมกิตติ ได้ทำพิธีเจริญพุทธมนต์ให้กับผู้มาร่วมในการปล่อยโคมลอยบูชาพระธาตุจอมกิตติ โดยมีนายเกรียงศักดิ์ วันไชยธนวงศ์ รองนายกองค์การบริหารส่วน จังหวัดเชียงราย ผศ.ดร.อรวรรณ บุญพัฒน์ คณบดีสำนักวิชาการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย นายวิสูตรบัวชุม ผอ.ททท.เชียงราย นายสุวิน เครื่องสีมา ส.อบจ.เขตเชียงแสน นายพลภพ มานะมนตรีกุล นายกเทศมนตรีตำบลเวียง อ.เชียงแสน และนางเกศสุดา สังขกร นายกเทศมนตรีตำบลเวียงเชียงแสน ได้ร่วมปล่อยโคมลอยบูชาพระธาตุ ของหมู่บ้านจอมกิตติ และปล่อยโคมเพื่อส่งเคราะห์ในเทศกาลลอยกระทง ตั้งแต่เช้ามีฝนตกลงมาเล็กน้อย แต่ยังมีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวเฝ้าชมการปล่อยโคมยักษ์อย่างคึกคัก

นายภาณุวัฒน์ ศรีสุข อดีตผู้ใหญ่บ้านบ้านจอมกิตติ ซึ่งเป็นผู้นำในการจัดทำโคมควัน ได้เปิดเผยว่า โคมลอยมักนำมาปล่อยกันในเทศกาลงานลอยกระทง ทางภาคเหนือเรียกว่าประเพณียี่เป็ง ประเพณีลอยกระทงของชาวล้านนา ที่หมู่บ้านจอมกิตติ อ.เชียงแสน เป็นหมู่บ้านเดียวที่จัดให้มีการแข่งขันประกวดโคมลอยทุกปี แต่ปีนี้มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดจึงยกเลิกการแข่งขันโคมลอย มีจัดโคมลอยบูชาพระธาตุจอมกิตติ และปล่อยโคมยักษ์ที่มีความสูงเท่าตึก 4 ชั้น เพื่อเป็นพุทธบูชาแล้ว และที่ยังนิยมทำโคมลอยและเล่นกันมากในประเพณีเดือนยี่หรือวันเพ็ญ เดือน 12 และจะปล่อยในเวลากลางวัน ถือว่าเป็นการสะเดาะเคราะห์ด้วย ลักษณะของโคมลอยที่จะปล่อยขึ้นไปไม่มีรูปแบบที่แน่นอน แต่มักจะเลียนแบบธรรมชาติที่มองเห็น เช่น รูปทรงกระบอก ทรงกลม ทรงเหลี่ยมและอีกหลายแบบ

นายภาณุวัฒน์ เปิดเผยต่อ ว่าการจัดทำโคมลอยหรือโคมควันเป็นประเพณีของชาวล้านนา ซึ่งชาวบ้านจอมกิตติปฏิบัติสืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ จนเป็นงานประจำปี เพื่อการบูชาพระธาตุจอมกิตติ อันเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของ จ.เชียงราย เนื่องจากชาวไทยภาคเหนือหรือคนล้านนาเชื่อว่าการปล่อยโคมลอยจะได้อานิสงส์มาก โดยเฉพาะเมื่อได้เขียนชื่อญาติที่ล่วงลับไปแล้วใส่ไว้ในกระเช้าของโคมที่มีอาหารการกินแล้วนำไปลอยสู่ฟากฟ้าก็จะทำให้บรรพบุรุษผู้ที่ล่วงลับ ซึ่งสถิตอยู่ ณ จุฬามณีธาตุ ได้รับด้วย

ขณะที่นายพลภพ นายกเทศมนตรีตำบลเวียงกล่าวว่า ประเพณีปล่อยโคมลอยของหมู่บ้านจอมกิตติ มีจัดขึ้นทุกปีบริเวณลานหน้าวัดพระธาตุจอมกิตติ ซึ่งทางเทศบาลพร้อมให้การสนับสนุนในด้านงบจัดสร้าง เพราะเท่าที่ทราบในอำเภอเชียงแสน ก็มีหมู่บ้านจอมกิตติเพียงหมู่บ้านเดียวที่จัดทำโคมลอยปล่อยในวันลอยกระทงซึ่งตรงกับวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ บางปีมีการจัดการแข่งขันโคมลอยขึ้นในภายหมู่บ้าน บางปีมีโคมลอยจากเชียงใหม่มาร่วมแข่งขัน และการทำโคมลอยและโคมลอยขนาดใหญ่สูงเท่าตึกหลายชั้นต้องช่วยกันอนุรักษ์ไว้ เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษา

ปัญธิพงศ์ ศิริโชคธนากูล / จ.เชียงราย รายงาน