ข่าวพาดหัวฆ่าตัวตายตรวจสอบ

กรุงเทพฯ – หนุ่มใหญ่ วัย 57ปี ใช้อาวุธปืนยิงหน้าอก ดับ ภายในบ้านพัก

หนุ่มใหญ่ วัย 57ปี ใช้อาวุธปืนยิงหน้าอก ดับ ภายในบ้านพัก

เมื่อเวลา 23:50 น
วันที่ 27 ธันวาคม 2564

ร.ต.ท.ปณิธาน ห่วงถึง รอง สว. สอบสวน สน. สำเหร่ รับแจ้ง มีผู้ใช้อาวุธปืน ยิงตัวเอง เสียชีวิต จุดเกิดเหตุ ภายในบ้านพักอาศัย ซอยสมเด็จเจ้าตากสิน แขวง สำเหร่ เขต ธนบุรี กรุงเทพมหานคร จึงรีบรุดจัดกำลัง เดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยอาสาสมัครป่อเต็กตึ๊ง และ แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลจุฬา อย่างเร่งด่วนทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงที่เกิดเหตุ เป็นลักษณะบ้านปูนชั้นเดียวมีรั้วรอบขอบชิด จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าบ้านภายในรั้ว พบร่างผู้เสียชีวิต เป็นชาย 1 ราย อายุ 57 ปี ผู้ตายอยู่ในลักษณะนอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้น การแต่งกายสวมใส่ เสื้อยืดคอกลม แขนสั้น สีเขียว สวมใส่กางเกงวอร์ม ขายาวสีน้ำเงิน โดยพบบาดแผล รูกระสุน ที่บริเวณหน้าอกเหนือราวนม ด้านซ้าย 1 แผล แล้วใกล้กันยังพบกับอาวุธปืน ลูกโม่ ขนาด .357 ตกอยู่ที่บริเวณปลายเท้าห่างจากศพผู้ตายไปถึงประมาณเกือบ 2 เมตร

จากการสอบถามผู้ที่อยู่ภายในบ้าน กล่าวว่า ผู้ตายทำอาชีพเป็นหัวหน้าวินมอเตอร์ไชค์ละแวกบ้าน สาเหตุที่ลงมือคาดว่าเครียดเรื่องโรคมะเร็งลำไส้ ต้องผ่าหน้าท้องต่อสายยางปัสสาวะ ขณะเกิดเหตุทุกคนอยู่ในบ้านจู่ๆผู้ตายเดินออกไปหน้าบ้านแล้วได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จึงรีบออกมาดูพบว่านอนอยู่แล้วมีเลือดไหลออกมาจึงรีบแจ้งกู้ภัยให้มาช่วยเหลือแต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ ซึ่งคำให้การสอดคล้องกับชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ในระแวกแถวนั้นต่างก็บอกกันเป็นเสียงเดียวกันว่าได้ยินเสียปืนดังขึ้น 1 นัด แล้วพอสิ้นเสียงปืนก็รู้ข่าวว่าเกิดเหตุการณ์นี้จึงต่างวิ่งมาดูก็พบว่าอยู่ในสภาพนี้แล้ว และต่างก็ช่วยกันแจ้งตำรวจ และกู้ภัยให้รีบเข้ามาช่วยเหลือแต่ก็ไม่ทันการณ์แล้วจึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเพราะผู้ตายยิงตนเองเข้าบริเวณจุดสำคัญพอดี ส่วนผู้ตายนั้นชาวบ้านแถวนี้ต่างก็รู้จักกันเป็นอย่างดี แล้วก็ป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้มานานแล้ว ได้รับการผ่าตัดหน้าท้องต่อสายยางปัสสาวะ แล้วก็ผ่าตัดปิดรูทวารแต่อาการก็ไม่ดีขึ้น จึงอาจจะทนความเจ็บปวดจากการเป็นโรคประจำตัวไม่ไหว จึงหมดกำลังใจก็เลยอาจจะทำให้ผู้ตายตัดสินใจจบชีวิตตนเองก็เป็นได้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนภรรยาและญาติอย่างละเอียดเพื่อสรุปสาเหตุการเสียชีวิตครั้งนี้ต่อไป ส่วนร่างผู้เสียชีวิตเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแพทย์นิติเวช มอบหมายให้อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำส่งไปตรวจสอบหาสาเหตุของการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวช ก่อนที่มอบร่างให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.