ร้อยเอ็ดจัดพิธีปล่อยแถวการตรวจค้นจู่โจมกรณีพิเศษ ณ เรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด
วันพุธที่ 29 ธันวาคม 2564 เวลา 15.00 น. นายชนาส ชัชวาลวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานปล่อยแถวการตรวจค้นจู่โจมกรณีพิเศษ ณ เรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายเกษมศานต์ บุญญจินดา นิลวงศ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด 20 นาย ปกครองจังหวัดร้อยเอ็ด 20 นาย และสถานกักขังกลางจังหวัดร้อยเอ็ด 10 นาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ดรวมทั้งสิ้น 130 นาย เข้าร่วมในการปล่อยแถวตรวจค้นครั้งนี้ ซึ่งก่อนเข้าจู่โจมตรวจค้น ได้ทำการ ATK เจ้าหน้าที่ทุกนาย เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด 19 ผลปรากฎว่าไม่พบเชื้อโควิด 19 ทั้งหมด และหลังจากการตรวจค้น ผลปรากฏว่า ไม่พบสิ่งของต้องห้าม เครื่องมือสื่อสาร ยาเสพติด หรือสิ่งของไม่อนุญาตแต่อย่างใด
กรมราชทัณฑ์ มีนโยบาย ให้เรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ ดำเนินการตามนโยบายด้านการจู่โจมตรวจค้นกรณีพิเศษร่วมกับหน่วยงานภายนอก ปีละ 2 ครั้ง ซึ่งในการจู่โจมตรวจค้นในวันนี้ เป็นการสนธิกำลังกับหน่วยงานภายนอก เพื่อประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ ในการดำเนินการจู่โจมตรวจค้นและกวาดล้าง พื้นที่ที่อาจมีการซุกซ่อนสิ่งของที่ผิดกฎหมาย ยาเสพติดเครื่องมือสื่อสาร และสิ่งของต้องห้ามต่างๆ ภายในเรือนจำฯ เป็นการป้องปรามมิให้มีการลักลอบกระทำการหรือวางแผนที่จะกระทำการใดๆที่เป็นอุปสรรคต่อการควบคุม หรือก่อเหตุความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นภายในเรือนจำฯ และยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของกรมราชทัณฑ์ ต่อสังคมภายนอก
ทั้งนี้ นายชนาส ชัชวาลวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า จังหวัดร้อยเอ็ดแม้จะไม่มีแหล่งผลิตยาเสพติดในพื้นที่ แต่ยังคงมีปัญหาด้านการค้าและแพร่ระบาดยาเสพติดอยู่ เนื่องจากยังมีผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่อยู่ ซึ่งจังหวัดร้อยเอ็ดมีเส้นทางการคมนาคม ที่สามารถเชื่อมโยงพื้นที่ชายแดน และพื้นที่ตอนในที่มีปัญหายาเสพติด ส่งผลให้กลุ่มนักค้าใช้เส้นทางการลำเลียงไปเพื่อส่งต่อให้กับเครือข่ายนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ใกล้เคียง ประกอบกับราคายาเสพติดที่ลดลงและมีการซื้อ-ขายผ่านออนไลน์ ส่งผลให้กลุ่มผู้ค้าและผู้เสพเข้าถึงได้ง่าย และมีทางเลือกซื้อได้มากขึ้น ดังนั้นต้องดำเนินการสอดส่องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดต่อเนื่อง เพื่อให้การดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ปรากฏผลเป็นรูปธรรมอย่างจริงจัง และการปล่อยแถวครั้งนี้ ได้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจ จากทุกฝ่าย เป็นอย่างดี ทำให้สบายใจได้ว่าตราบใดที่ทุกฝ่ายสามารถประสานนโยบาย สนับสนุนการปฏิบัติงานซึ่งกันและกันแล้ว เราจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นได้ในทุกด้าน