ข่าวพาดหัวอาสาสมัครหน่วยกู้ชีพ-กู้ภัยอุบัติเหตุ

กรุงเทพฯ – กู้ภัยเร่งงมหาหนุ่มใหญ่วัย 66 ปี นั่งดวดเหล้ากับเพื่อนท้ายเรือแล้วพลัดตกน้ำจมหาย ย่าน ราษฎร์บูรณะ

กู้ภัยเร่งงมหาหนุ่มใหญ่วัย 66 ปี นั่งดวดเหล้ากับเพื่อนท้ายเรือแล้วพลัดตกน้ำจมหาย ย่าน ราษฎร์บูรณะ

วันที่ 17 มกราคม 2565
เวลา 22.40 น.

ร้อยตำรวจเอก ไพรวิทย์ ปรือทอง รอง สว.สอบสวน สน.บางคอแหลม รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตจากการพลัดตกน้ำ บริเวณ ท่าเทียบเรือแห่งหนึ่งย่าน ถนน.ราษฎร์บูรณะ จึงเร่งรุดจัดกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมประสานหน่วยกู้ภัยทางน้ำ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และ แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมอาสาสมัครชุดปฏิบัติการกู้ภัยทางน้ำมาถึงที่เกิดเหตุ บริเวณท่าเทียบเรือ ถนน ราษฎร์บูรณะ แขวง ราษฎร์บูรณะ เขต ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร พบว่าบริเวณที่เกิดเหตุนั้นเป็นลักษณะเรือขนส่งสินค้าจอดเทียบเคียงกันอยู่หลายสิบลำ ส่วนลำที่เกิดเหตุเป็นเรือขนส่งสินค้าซึ่งในลักษณะตอนเกิดเหตุนั้นจอดอยู่เทียบกันอยู่คู่กัน แล้วผู้เสียชีวิต ได้นั่งดื่มเหล้าอยู่กับเพื่อนที่เป็นพนักงานขับเรือด้วยกันอยู่หลายคน แล้วพอเมาได้ที่ก็เดินพลัดตกลงไประหว่างร่องเรือในขณะนั้นกระแสน้ำดังกล่าวมีความเชี่ยวมาก เพื่อนในวงเหล้าด้วยกันต่างก็เห็นเหตุการณ์ แต่ไม่สามารถลงไปช่วยเหลือได้ จึงโยนเชือกลงไปให้แต่ผู้ตายเกาะเชือกไม่อยู่แล้วสักพักก็จมลงสู่ท้องน้ำต่อหน้าต่อตาเพื่อนๆทุกคน เมื่อเห็นว่าจมลงไปแล้วจึงช่วยกันโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกู้ภัยให้รีบมาช่วยเหลือทันที

อาสาสมัครกูภัยได้จัดชุดอุปกรณ์ประดาน้ำลงงมเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงสามารถเก็บกู้ร่างผู้ตายเป็นชาย อายุ 66 ปี เป็นผลสำเร็จ แล้วนำขึ้นมาให้แพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบนโป๊ะท่าเทียบเรือดังกล่าว ในลักษณะการแต่งกายสวมใส่เสื้อยืดคอกลมสีเทาแขนสั้น กางเกงยีนส์ขายาวสีดำ ไม่สวมรองเท้า จากการตรวจสอบแล้วไม่พบบาดแผลจากการถูกทำร้าย เเพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงทำการบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถามเพื่อนร่วมงาน บอกว่า ตนนั่งดื่มกินด้วยกันที่เรือลำนี้ ส่วนผู้ตายอยู่เรืออีกลำนึง พอตนรู้สึกได้ที่แล้วพอแล้ว ตนก็ลุกเดินกลับเข้าเรือตน เปิดโทรทัศน์ดูจะนอนแล้ว สักพักก็ได้ยินเสียงดังตูม ดังน้ำกระจาย ตนก็รีบออกมาดู เห็นโผล่ขึ้นมา เลยตะโกนเรียก มีคนตกน้ำ จึงวิ่งหาเชือกโยนลงไป ตนก็ไม่กล้าลงไปมันสูง แล้วก็วิ่งไปรอที่ท้ายเรือ แต่ก็ไม่โผล่ขึ้นมาอีกเลย ตั้งแต่ประมาณทุ่มนิดๆ

ส่วนภรรยาของผู้เสียชีวิตบอกว่า ตนกับผู้ตายพักอาศัยอยู่ในเรือมาเกือบ 30 ปีแล้ว ส่วนตนอยู่ในเรือตั้งแต่เกิดก็ว่าได้ ไม่ได้เรียนหนังสือ ทำงานอยู่แต่ในเรือรับจ้างเค้าขนไม้ขนเหล็กขนของไปเรื่อย จนมาได้เจอผู้ตายแต่งงานอยู่กินกันบนเรือมาตลอด ผู้ตายก็เป็นคนเรือเหมือนกัน มีลูกด้วยกัน 2 คน ลูกชายกับลูกสาว เค้าก็ไปทำงานอยู่ที่อยุธยา ตอนเกิดเหตุเค้านั่งกินเหล้ากันอยู่กับพวกๆกันนี่แหละ กินกันเป็นประจำ ก่อนเกิดเหตุตนก็เดินไปบอกว่า กินให้อิ่มนะ กินแล้วถ้าเมาก็นอนอยู่นี่ก่อนอย่าเพิ่งกลับ เค้าก็หันกลับมาบอก จ้า ตนก็เดินมาที่เรือเพื่ออาบน้ำนอนตามปกติทุกวัน สักพักก็มีคนมาเรียกบอก ตนก็คิดว่าต้องมีเรื่องอะไรแน่เลย คนมาบอกว่า ตาตกน้ำ ตนก็มาดูมาถามหา ก็บอกว่า นั่งกินกันเสร็จก็ต่างคนต่างเข้าเรือตัวเองนอน แล้วตาคงเดินข้ามเรือเพื่อจะกลับมายังเรือตนเองแหละ แล้วพลาดตกระหว่างเรือ เค้าได้ยินเสียงดังตูม ชะโงกดูเห็นโผล่มานะ เลยหาเชือกโยนลงไป มันสูง ก็ไม่มีใครกล้าลงไปช่วย แล้วคงจะหมดแรงเพราะเมาด้วยเลยจมหายลงไป

เบื้องต้นแพทย์นิติเวชสันนิษฐานการเสียชีวิตจากการจมน้ำ แต่อย่างไรแล้วต้องส่งมอบให้กู้ภัยนำร่างส่งสถาบันนิติเวช เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้งก่อนจะให้ญาติมาติดต่อในวันรุ่งขึ้นเพื่อขอรับร่างกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่จังหวัดอยุธยาต่อไป

โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.