พช.ร้อยเอ็ด จัดกิจกรรมวันครบรอบปีที่ 53 โครงการพัฒนาผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน ภายใต้แนวคิด รวมพลัง อช.แก้จน พัฒนาคนสร้างชุมชนพอเพียง จังหวัดร้อยเอ็ด
วันจันทร์ที่ 31 มกราคม 2565 เวลา 09.30 น. นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดกิจกรรมวันครบรอบปีที่ 53 โครงการพัฒนาผู้นำอาสาพัฒนาชุมชนภายใต้แนวคิด รวมพลัง อช.แก้จน พัฒนาคนสร้างชุมชน พอเพียง จังหวัดร้อยเอ็ด ที่ ห้องประชุมพระมหาเจดีย์ชัยมงคล ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายพิศ นันทพูนพิพัฒน์ พัฒนาการจังหวัดร้อยเอ็ด , นางราณี วงศ์ลุน ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน , พัฒนาการอำเภอทุกอำเภอ เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน ผู้นำ อช.จากทุกอำเภอในจังหวัดร้อยเอ็ด และชมรมอาสาพัฒนาชุมชนจังหวัดร้อยเอ็ด เข้าร่วม
โดยการจัดกิจกรรมในครั้งนี้เพื่อแสดงถึงพลังอาสาพัฒนาชุมชนสร้างความสมัครสมานสามัคคีในหมู่คณะ สร้างความเกื้อกูลในสังคม และประชาสัมพันธ์กิจกรรมอาสาพัฒนาชุมชนให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย กิจกรรมประกอบด้วย การรวมพลังอาสาพัฒนาชุมชน จาก 20 อำเภอ โดยกล่าวคำปฏิญาณตน การมอบเกียรติบัตรแก่ อช. และผู้นำ อช. ที่มีผลงานดีเด่น จำนวน 40 คน การอ่านสารรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยกิจกรรมแก้จน พัฒนาคน สร้างชุมชนพอเพียง ได้แก่ การแบ่งปันสุข แบ่งปันเมล็ดพันธุ์ผัก ต้นกล้า การปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร และการทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ ทำความสะอาด ปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในบริเวณศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด
โอกาสนี้ นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ได้กล่าวให้โอวาทและมอบแนวทางการขับเคลื่อนงานอาสาพัฒนาชุมชน พร้อมกล่าวว่า โครงการพัฒนาผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน มีความสำคัญอย่างมากเพราะผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน เป็นองค์กรที่ทำงานในรูปของอาสาสมัคร มีความเสียสละต่อส่วนรวม โดยไม่หวังค่าตอบแทน ทำงานด้วยความมุ่งมั่นเสียสละเพื่อช่วยเหลือหน่วยงานราชการในระดับพื้นที่และช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในหมู่บ้าน/ชุมชน ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมทั้ง ได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมกิจกรรมที่เป็นนโยบายสำคัญของทางราชการให้ประสบผลสำเร็จ และสานต่อนโยบายของรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย กรมการพัฒนาชุมชนและนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ประสบผลสำเร็จ เกิดประโยชน์แก่พี่น้องประชาชนอย่างกว้างขวาง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้นำอาสาพัฒนาชุมชนทุกท่าน จะได้นำแนวทางที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ไปใช้สำหรับการพัฒนาชุมชน ให้ประชาชนมีความ “อยู่เย็น เป็นสุข” เป็นชุมชนพึ่งพา ตนเองได้อย่างยั่งยืน ต่อไป