เสี่ยขายของเล่นเด็กชาวจีนเครียดใช้กรรไกรแทงคอตัวเองดับคาบ้านเช่าย่านเทียนทะเล
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565
ร.ต.อ.เฉลียว วอกลาง รอง สว.(สอบสวน) สน.เทียนทะเล รับแจ้งชายใช้มีดปาดคอตัวเองเสียชีวิตในภายบ้านพักอาศัยของตนเอง หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ถนน วงเเหวนรอบนอกฝั่งใต้ แขวง ท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.น.9 พ.ต.อ.พายัพ สมบูรณ์ ผกก.สน.เทียนทะเล พ.ต.ท.ขจร ธูปประกายศรี สว.สส.สน.เทียนทะเล เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ปลูกในรั้วรอบขอบชิดบนเนื้อที่ประมาณ 50 ตารางวา ชั้นล่างแบ่งเนื้อที่วางกล่องสินค้าประเภทของเล่นเด็กนำเข้าจากประเทศจีนจำนวนมาก จากการตรวจสอบในห้องน้ำบนห้องนอนชั้นที่ 2 พบศพชาย 1 ราย อายุ 34 ปี ผู้เช่าบ้านชาวจีน สภาพนอนตะแคงขวาคว่ำหน้าข้างโถชักโครก สวมเสื้อคอปกแขนสั้นสีดำ นุ่งกางเกงขายาวสีดำ มีบาดแผลใช้กรรไกรแทงเข้าที่ลำคอตัวเอง จนเป็นแผลฉกรรจ์เลือดพุ่งสาดกระเซ็นเต็มพื้นห้องน้ำ บนอ่างล้างหน้าพบกรรไกรเปื้อนเลือดวางอยู่ 1 ด้าม มีดทำครัวยาว 8 นิ้ว 1 เล่ม และข้าวของเครื่องใช้ในกระจัดกระจายเกลื่อนเจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวน ภรรยาของผู้ตาย ให้การว่า ตนและสามีเข้ามาอยู่ในเมืองไทยหลายปีเเล้ว โดยมาเช่าบ้านหลังนี้ประกอบธุรกิจขายของเล่นเด็กซึ่งนำเข้ามาจากประเทศจีน ผ่านทางเว็บไซต์ ได้ 1 ปีกว่า ก่อนเกิดเหตุตนและบุตรชายวัย 6 เดือน อยู่ชั้นล่างของตัวบ้าน มีลูกจ้าง อีก 4 คน กำลังแพคของเล่นตามใบสั่งลูกค้าอยู่ที่บริเวณหน้าบ้าน โดยผู้ตายอยู่บนชั้น 2 ตามลำพัง เมื่อเห็นว่านานแล้วไม่ลงมาจากห้องนอน ตนจึงเดินขึ้นไปตรวจสอบก็พบห้องนอนล็อคจากด้านใน ต้องใช้กุญแจสำรองไขเข้าไปดู พบร่างโชกเต็มไปด้วยเลือดของสามีอยู่ในห้องน้ำ จึงรีบบอกลูกจ้างให้ช่วยโทรศัพท์ตามตำรวจมาตรวจสอบ
ด้าน พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพบ้านที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และภรรยาผู้เสียชีวิต ก็ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดเนื่องจากฝ่ายสามี ไม่เคยปรับทุกข์เรื่องราวใดๆให้ฟัง แต่ให้ข้อมูลว่าระยะหลังผู้ตายมีอาการคล้ายเคร่งเครียดบ่อยครั้งคาดว่า น่าจะเป็นปัญหาจากการทำธุรกิจในช่วงโควิด-19 ซึ่งหลังจากนี้ สั่งการให้พนักงานสอบสวน ทำการสอบปากคำภรรยา และลูกจ้าง ที่ทำงานอยู่ในบ้านอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนมอบร่างผู้ตายให้แพทย์นิติเวชดำเนินการผ่าชันสูตรเพื่อรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป.
โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.
