ข่าวทั่วไปข่าวพาดหัวตรวจสอบ

ประจวบฯ – เครือข่ายต้านโกงแจ้งความโรงพัก ยื่น ป.ป.ช.สอบพิรุธต้นศรีมหาโพธิ์ทรงปลูก ถูกตัดโค่นนาน 4 ปี ไม่มีหน่วยงานใดรับผิดชอบ

เครือข่ายต้านโกงแจ้งความโรงพัก ยื่น ป.ป.ช.สอบพิรุธต้นศรีมหาโพธิ์ทรงปลูก ถูกตัดโค่นนาน 4 ปี ไม่มีหน่วยงานใดรับผิดชอบ

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ จ่าเอกเสกสรรค์ จันทร แกนนำเครือข่ายต่อต้านการทุจริต จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า กรณีนักท่องเที่ยวที่เดินทางขึ้นเขาช่องกระจก แลนมาร์คสำคัญด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม ด้านหน้าศาลากลางจังหวัด เขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ เพื่อตามรอยเส้นทางเสด็จ พร้อมกราบสักการะบรมสารีริกธาตุ และชมวิวอ่าวประจวบมุมสูง 360 องศา พบเพียงป้ายแสดงประวัติต้นศรีมหาโพธิ์มีพระปรมาภิไธยย่อ “ ภปร.” “สก.” แต่ไม่พบต้นศรีมหาโพธิ์ทรงปลูกบริเวณจุดชมวิวด้านทิศตะวันออก จากการตรวจสอบว่าต้นศรีมหาโพธิ์ดังกล่าวเป็นต้นไม้ทรงปลูก ภายหลังพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินินาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเสด็จพระราชดำเนินประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ในสถูปเจดีย์ด้านทิศเหนือ และทรงปลูกต้นศรีมหาโพธิ์ บนยอดเขาช่องกระจกเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2501 แต่จากการตรวจสอบพบว่าเมื่อเดือนสิงหาคม 2561 ต้นศรีมหาโพธิ์ถูกตัดโค่นขุดเหลือแต่ตอ ปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานใดแสดงความรับผิดชอบ

จ่าเอกเสกสรรค์ กล่าวอีกว่า เพื่อให้มีความชัดเจนได้นำตัวแทนเครือข่ายร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัด สำนักงานจังหวัด สำนักงานปกครองจังหวัด สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด สำนักงานโยธาจังหวัด สำนักงานทรัยยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ชี้แจงข้อเท็จจริง สาเหตุที่ทำให้มีการตัดโค่นต้นศรีมหาโพธิ์ ผลจากการยื่นของพระราชอภัยโทษถึงสำนักพระราชวัง ผลสรุปจากการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง และการแก้ไขปัญหาเพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับต้นไม้ทรงปลูกของพระบรมวงศานุวงศ์ นอกจากนั้นได้ยื่นเรื่องร้องเรียนสำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช.จังหวัด กล่าวหาผู้บริหารระดับสูง เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 พร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องที่ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ให้สอบสวนหาข้อเท็จจริงภายใน 30 วันก่อนสรุปเสนอ ป.ป.ช. เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานเอาผิดกับผู้ตัดโค่นต้นศรีมหาโพธิ์ทรงปลูก

“รวมทั้งปัญหาจากสำนักงานจังหวัด สำนักงานโยธาธิการจังหวัดใช้งบพัฒนาจังหวัดด้านการท่องเที่ยว ทำสิ่งปลูกสร้างบนเขาช่องกระจก มีผลกระทบกับต้นศรีมหาโพธิ์ในขณะที่มีอายุ 60 ปี และหลังจากมีการตัดโค่นต้นโพธิ์ทรงปลูกเมื่อเดือนสิงหาคม 2561 แต่พบว่าปกครองจังหวัดเร่งรีบหาพยานหลักฐาน ส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาทำการวินิจฉัยพื้นที่ราบบนเขาช่องกระจกและบันไดทางขึ้นภูเขา ให้เป็นที่ดินธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการามวรวิหาร เนื่องจากก่อนหน้านั้นไม่มีหน่วยงานใดอ้างเป็นผู้แลพื้นที่เขาช่องกระจก ล่าสุดได้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศก่อนปี 2497 แสดงการใช้ประโยชน์ของวัด เนื่องจากพบว่าเดิมวัดธรรมิการามฯ ได้จัดซื้อที่ดินด้านทิศตะวันตกเพื่อสร้างวัดคณะใต้ มีถนนสาธารณะกั้นระหว่างที่ดินวัดและเขาช่องกระจก ดังนั้นการวินิจฉัยความให้เขาช่องกระจกเป็นธรณีสงฆ์อาจมีความคลาดเคลื่อน ปัจจุบันยังมีการกำหนดแนวเขตธรณีสงฆ์ของวัดอย่างชัดเจน ทำให้หลายหน่วยงานส่อทุจริต มีปัญหาถูกทักท้วงจากการใช้งบพัฒนารอบพื้นที่รอบเขาช่องกระจก ” จ่าเอกเสกสรรค์ กล่าว

มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2561 นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ได้ทำหนังสือแจ้งมหาเถรสมาคม ขอให้มีพระบัญชา พ.ร.บ.สงฆ์ พ.ศ.2535 และแก้ไขเพิ่มเติม ลงโทษนิคหกรรมแก่เจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งได้กระทำการล่วงละเมิดธรรมวินัยร้ายแรงด้วยการสั่งการให้มีการตัดต้นศรีมหาโพธิ์ ตามที่ปรากฏเป็นการทั่วไปว่า ต้นพระศรีมหาโพธิ์บริเวณยอดเขาช่องกระจก เขตอภัยทาน ในความรับผิดชอบดูแลของวัดธรรมิการาม ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงปลูกครั้งเสด็จขึ้นเขาช่องกระจก เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ.2501 ภายหลังพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และเป็นหน่อเดิมจากต้นพระศรีมหาโพธิ์จากพุทธคยา ประเทศอินเดีย ถูกพระราชสุทธิโมลี เจ้าอาวาสวัดธรรมมิการามวรวิหาร และดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดได้ใช้อำนาจโดยพลการสั่งการให้มีการตัดโค่น โดยไม่ได้ขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย อาจเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป่าไม้ พ.ศ.2484 /////
พิสิษฐ์รื่นเกษมข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์โทร 099 339 6444