ข่าวพาดหัวอาสาสมัครหน่วยกู้ชีพ-กู้ภัยอุบัติเหตุ

กรุงเทพฯ – หนุ่ม รปภ.ควบ จยย.พลิกคว่ำขึ้นบาทวิถี เจ็บ 1 ดับ 1 บริเวณสะพานพระปิ่นเกล้า

หนุ่ม รปภ.ควบ จยย.พลิกคว่ำขึ้นบาทวิถี เจ็บ 1 ดับ 1 บริเวณสะพานพระปิ่นเกล้า

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2565
เวลา 21.50 น.

พ.ต.ท.วันชัย พันธพัฒน์ สว.(สอบสวน) สน.บางยี่ขัน ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักพลิกคว่ำด้วยตนเอง มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ บริเวณสะพานพระปิ่นเกล้าฝั่งขาออก จึงรีบประสานแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และ อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งมาสนับสนุนที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุเป็นบริเวณสะพานพระปิ่นเกล้า(ขาออก) แขวง อรุณอัมรินทร์ เขต บางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ในจุดเกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ สีแดงทะเบียน 3 ขร 8757 กทม. สภาพพังยับเยินล้มตะแคงข้างอยู่บนบาทวิถี และพบผู้เสียชีวิตห่างจากรถจักรยานยนต์ไปประมาณ 50 เมตร บริเวณ ข้างสะพานลอยคนข้ามถนน หมวกกันน๊อคกระจกหน้าหมวกแตกตกอยู่ในจุดเกิดเหตุ และพบกระเป๋าสะพายใส่ชุดฟอร์มของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง และภายในที่เกิดเหตุยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชายอีก 1 ราย ทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บต่อมาชื่อ นาย เวชรินทร์ ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 54 ปี อาสาให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วนำส่ง รพ.ศิริราช อย่างเร่งด่วน ต่อมาทราบชื่อผู้เสียชีวิตชื่อ นาย ศักดิ์ณรงค์ ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 34 ปี ในสภาพมีบาดแผลเปิดขนาดใหญ่ที่ศีรษะ สวมใส่เสื้อยืดคอกลมแขนกุด กางเกงยีนส์ขายาว รองเท้าหนังสีดำ

สอบถามจาก นาย กุศล ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 53 ปี บอกว่า ตนนั่งอยู่อีกฝั่งถนนนึง แล้วได้ยินเสียงดังมากคล้ายรถยางแตก ตนก็หันมา เห็นรถมอไซค์ไฟแลบแต่ยังไม่เห็นคน ตนจึงเดินมาดู แต่ตอนนั้นคนก็เดินมาดูกันเยอะ ตนก็ไม่เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้นะ ก็รู้สึกตกใจเหมือนกัน

ส่วนทางด้านวินมอไซค์รับจ้างชื่อ นาย ธานินทร์ ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 45 ปี บอกว่า ตนเห็นผู้เสียชีวิตกับผู้ได้รับบาดเจ็บขี่รถกลับเข้าซอยเพื่อกลับเข้าห้องพักเป็นประจำทุกวัน เค้าจะขี่และซ้อนกันมา 2 คน ประมาณ 2-3 ทุ่ม วันนี้ตอนเกิดเหตุตนก็เดินมาดู เห็นมีคนเจ็บ 2 คนนอนอยู่ คนที่เจ็บน้อย อาสานำส่งโรงพยาบาลไปแล้ว ส่วนอีกคนนึงกำลังปั๊มหัวใจกันอยู่ พอมองไปที่รถ มันคุ้นๆ เลยไปดูใกล้ๆ ก็ใช่คนที่ตนเคยเห็น เพราะเค้าจะขี่เข้าเลนในเพื่อจะเลี้ยวเข้าซอยนี้ประจำ เค้าพักอยู่ที่ตึกในซอยนี่แหละ แต่ตนไม่รู้ว่าอยู่ห้องไหน และไม่รู้ว่า พักอยู่กันกี่คน มีครอบครัวมั้ย ตนไม่รู้ เห็นแต่จะขี่และซ้อนกันมา 2 คนทุกวัน

เบื้องต้นแพทย์นิติเวชตรวจพลิกศพแล้วสันนิษฐานการเสียชีวิตจากการชนกระแทกอย่างแรง ทำให้ศีรษะมีแผลเปิดขนาดใหญ่บริเวณศีรษะ จนทนพิษบาดแผลไม่ไหวก็เลยเสียชีวิตทันที จึงมอบหมายให้อาสาสมัครกู้ภัยนำส่งสถาบันนิติเวช เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้งก่อนจะให้ญาติมาติดต่อขอรับร่างกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เก็บบันทึกภาพในจุดเกิดเหตุและจะสอบถามถึงเหตุการณ์จากผู้ได้รับบาดเจ็บอีกครั้งหลังจากรักษาตัวจนอาการดีขึ้นก่อนหรือพอที่จะเล่าเหตุการณ์ให้ฟังได้

โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.