ข่าวทั่วไปข่าวพาดหัวตรวจเยี่ยม

กรุงเทพฯ – ผอ.เขตสัมพันธวงศ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารเหตุเพลิงไหม้ ย่านเยาวราช

ผอ.เขตสัมพันธวงศ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารเหตุเพลิงไหม้ ย่านเยาวราช

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565

เวลา 10.22 น.

น.ส.อาทิตยา โชคกิจมนัสชัย ผอ.เขตสัมพันธวงศ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารที่ถูกเพลิงไหม้เมื่อวานเป็นลักษณะอาคารพาณิชย์ สูง 6 ชั้น เลขที่ 737 ถนน เยาวราช แขวง จักรวรรดิ์ เขต สัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร ทราบชื่อร้านเจริญชัย ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายสินค้าประเภทกิ๊ฟช็อป ของเล่นเด็กทั้งใน และต่างประเทศ

สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้ ( วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 65 ) ในช่วงเวลา 16.15 น. ร.ต.ท.จุลจิตต์ สุวานิชกุล รอง สว.(สอบสวน) สน.จักรวรรดิ์ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ สูง 6 ชั้น จึงประสานเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเข้าตรวจสอบ พบแสงเพลิง และกลุ่มควันจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากที่ชั้น 4-6 ซึ่งเป็นชั้นดาดฟ้า เจ้าหน้าที่เร่งใช้น้ำกว่า 10 หัวฉีดทำการควบคุมเพลิง ซึ่งลักษณะซอยเป็นพื้นที่แคบ จึงทำให้เกิดกลุ่มควันฟุ้งกระจายเต็มบริเวณ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ใช้รถกระเช้าเข้าฉีดควบคุมเพลิงบริเวณชั้น 4 และมีการเข้าไปยังอาคารที่อยู่ติดกัน เพื่อขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้า ของอาคารที่เกิดเหตุก่อนจะพังกำแพงเพื่อเข้าไปควบคุมเพลิง โดยผ่านไปแล้วกว่า 1 ชั่วโมงก็ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ และยังมีแสงเพลิงพวยพุ่งอย่างต่อเนื่องที่ชั้นดาดฟ้า นอกจากนี้พบว่ามีร่อยรอยแตกร้าวที่บริเวณด้านนอกอาคาร และต่อมา เจ้าหน้าที่ได้สั่งห้ามฉีดน้ำเกรงว่าอาคารจะอุ้มน้ำไม่ไหว เนื่องจากมีการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดับไฟภายในอาจเป็นอันตรายได้ สำหรับสถานที่แห่งนี้เก็บสินค้าประเภทกิ๊ฟช็อปที่มีส่วนประกอบเป็นพลาสติกจำนวนมาก อีกทั้งเกรงว่าจะเกิดอาคารถล่มเนื่องจากเป็นอาคารเก่า อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะมีการใช้โฟมทำการดับ เพราะยังมีกลุ่มควันสีดำพุ่งออกมาจากตัวอาคารอย่างต่อเนื่อง

ต่อมาเวลา 19.41 น. ของวันเดียวกัน นาย ธีรยุทธ ภูมิศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร เผยว่า เพลิงไหม้ร้านกิ๊ฟช็อปในเยาวราช ขณะนี้เพลิงสงบ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดับถ่านเนื่องจากด้านในมีพลาสติกถูกเผาไหม้จำนวนมาก เมื่อโดนความร้อนทำให้รวมเป็นก้อน แต่จากการตรวจสอบไม่มีการลุกลามไปยังอาคารข้างเคียงแต่อย่างใด ส่วนเรื่องโครงสร้างของอาคารต้องให้ฝ่ายโยธา และ ผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบอีกครั้ง

แล้วในวันนี้จึงมีการลงพื้นที่ตรวจสอบโครงสร้างอาคารอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนที่จะมีการเรียกประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อหาลือเกี่ยวกับขั้นตอนของการตรวจสอบโครงสร้างอาคารว่ามีความปลอดภัยแค่ไหน หรือจะต้องทุบและสร้างใหม่เพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย จึงจำเป็นต้องตรวจสอบโครงสร้างอาคารอย่างละเอียดอีกครั้งจากผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายถึงจะสรุปได้ในขั้นตอนต่อไป

ส่วนจากการสอบถามนาย บุญเอก สันติทรัพย์พูล อายุ 57 ปี กล่าวว่า เหตุการณ์เมื่อวานนี้เกิดขึ้นในขณะที่ทุกคนภายในร้านดังกล่าวกำลังขายของกันอยู่ข้างล่างของตัวอาคารดังกล่าวเกิดมีแสงเพลิงและกลุ่มควัน ขึ้นบริเวณชั้นที่ 4 เป็นลักษณะควันไฟสีดำเป็นจำนวนมาก ตนเองก็เลยตะโกนบอกเด็กที่อยู่ร้านดังกล่าวว่าไฟกำลังไหม้ ทุกคนก็เลยแตกตื่นแล้วรีบขนของย้ายกันออกมา แต่ก็เคราะห์ดีที่ไม่มีใครเป็นอะไร ส่วนตอนเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ด้านบนเลยถ้ามีก็คงจะหนีออกมาไม่ทันแน่เพราะมันเร็วมาก

โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.