ข่าวทั่วไป

รถเก๋งเข้าเกียร์ไว้ ขึ้นสตาร์ทรถพุ่งใส่ แม่ค้าวัย 43 ดับใต้ท้องรถ ย่านทุ่งครุ

 

รถเก๋งเข้าเกียร์ไว้ ขึ้นสตาร์ทรถพุ่งใส่ แม่ค้าวัย 43 ดับใต้ท้องรถ ย่านทุ่งครุ

วันที่ 18 ธันวาคม 2563 เวลา 19.30 น. พันตำรวจตรี วิทยา บุญคุ้ม สว.(สอบสวน) สน.ทุ่งครุ ได้รับแจ้งมีเหตุผู้เสียชีวิตจากการถูกรถชน ภายในซอยประชาอุทิศ จึงประสาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูสนับสนุนที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ และ อาสาสมัครไปถึงที่เกิดเหตุเป็นบริเวณภายในซอยประชาอุทิศ ภายในบริเวณบ้าน แขวง ทุ่งครุ เขต ทุ่งครุ จังหวัด กรุงเทพมหานคร
ทางเข้าบริเวณที่จอดรถกว้าง 4 เมตร บนเนื้อที่ทั้งหมด 100 ตารางวา ปลูกบ้านอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 หลังคาเรือนอยู่ด้วยกันบนเนื้อที่เดียวกัน และ เป็นญาติกันทั้งหมด พบร่างผู้เสียชีวิตนอนอยู่ข้างรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ส สีฟ้า ทะเบียน 1กส6706 กทม. และ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น สกู๊ปปี้ไอ สีขาวฟ้า ทะเบียน อฉย135 กทม. และ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดงดำ ทะเบียน 1กฒ6058 สระบุรี รถจักรยานปั่น 1 คัน และ รถเข็นอีก 1 คัน

ใกล้กันพบผู้เสียชีวิตสวมใส่เสื้อยืดคอกลมสีขาวลายการ์ตูน กางเกงยีนส์ขายาว ใส่ถุงเท้าข้างซ้าย 1 ข้างสีเทาขาว ทราบชื่อ น.ส. สโรชา ( ขอสงวนนามสกุล )อายุ 43 ปี อาชีพค้าขายอยู่ตลาด 61 ผู้ขับขี่รถคันเกิดเหตุ ชื่อนาย สุชาติ ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 58 ปี เป็นน้าของผู้เสียชีวิต ทำงานรับจ้างทั่วไป ผู้เสียชีวิตมีลูกทั้งหมด 3 คน คนโต อายุ15 ปี เป็นผู้หญิง คนกลาง เป็นผู้ชาย อายุ 6 ขวบ คนเล็ก ผู้หญิง อายุ 4 ขวบ

จากการสอบถามจากญาติพี่น้องที่อาศัยอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ บอกเล่าว่า ” น้าของผู้เสียชีวิตเป็นคนขับรถยนต์คันดังกล่าวออกเพื่อจะขยับให้รถกระบะอีกคันนึงที่อยู่ข้างหน้าออกไปข้างนอก แต่เกิดเหตุขัดข้องที่ระบบเกียร์ซึ่งเป็นออโต้ รถจึงแล่นไปข้างหน้า พอดีกับผู้เสียชีวิตเดินอยู่หน้ารถพอดี ทำให้รถคันดังกล่าวชนอย่างแรงทำให้ร่างผู้เสียชีวิตอยู้ใต้ท้องรถ ระหว่างนั้น ญาติๆและ ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์จึงช่วยกันใช้แม่แรงยกรถขึ้นเพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาช่วยเหลือ แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตก่อนแล้ว ”

ส่วนทางคนขับซึ่งเป็นน้าชายของผู้เสียชีวิต นายสุชาติ อายุ 58 ปี เล่าว่า “ตนขึ้นรถไปจะขยับรถออกเพื่อให้รถกระบะอีกคันนึงของหลานเขยออก ก็ไม่รู้ว่ารถเข้าเกียร์ไว้แล้วก็ดึงเบรคมือไว้ด้วย พอตนขึ้นรถไปสตาร์ทเครื่อง รถจึงพุ่งไปข้างหน้าอย่างเร็วและแรง จังหวะนั้น ผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นหลานตน เดินอยู่ข้างหน้า จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ชนและ ลากไปชนรถมอไซค์ที่จอดข้างหน้าอีก 2 คันและจักรยานปั่น 1 คัน รถเข็นอีก 1 คัน รถจึงจอดแน่นิ่ง ตนจึงรีบลงมาดู และเรียกคนมาช่วยกันนำออกมา ”

เบื้องต้นแพทย์นิติเวช สันนิษฐานการเสียชีวิตจากการชนกระแทก และ ทับอย่างแรงจึงเสียชีวิตทันที มีบาดแผลที่สโพกหัก หัวเข่าด้านขวาหัก ด้านหลังช่วงสะโพก มีบาดแผลเขียวช้ำ แต่อย่างไรต้องส่งมอบให้ทางกู้ภัยนำส่งสถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง ก่อนจะให้ญาติมารับร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.